สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเลือกที่จะส่งสัญญาซื้อขายเข้ามาในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์แทน
โดยเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4113 ต่อยูโรจากระดับ 1.4082 ต่อยูโรเมื่อวานนี้ ณ เวลา 09:23 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
การแกว่งตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันในวันนี้มีขึ้นหลังจากที่เงินยูโรแข็งค่าท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของเยอรมนีจะฟื้นตัวโดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดิ่งลง 5.3% เนื่องจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลกได้จุดชนวนความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้อย่างเชื่องช้า
ทั้งนี้ ณ เวลา 11:21 น.ตามเวลาสิงคโปร์ น้ำมันดิบ NYMEX งวดส่งมอบเดือนก.ย.เคลื่อนไหวที่ระดับ 67.09 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหลังจากที่ตลาดปิดทำการซื้อขาย ราคาน้ำมันพุ่งสูงสุด 68 เซนต์ หรือ 1% แตะที่ระดับ 67.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันลดลง 76 เซนต์ปิดที่ 66.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์งวดส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอน พุ่งสูงสุด 40 เซนต์ หรือ 0.6% แตะที่ระดับ 70.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
เดวิด มัวร์ นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลียในซิดนีย์กล่าวว่า "การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้คือปัจจัยหนุนที่ช่วยให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งระยะนี้ตลาดจะเคลื่อนไหวตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ"
นอกจากนี้ มัวร์กล่าวเสริมว่า จีนจะมีความต้องการน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในประเทศเริ่มมีเสถียรภาพ โดยในวันนี้บริษัทไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ป ประกาศทางเว็บไซต์ถึงการลงนามข้อตกลงการซื้อขายน้ำมัน สำรองน้ำมัน และการขนส่งน้ำมันกับบริษัทอาบูดาบี เนชั่นแนล ออยล์ คอร์ป ซึ่งได้เซ็นสัญญากันไปเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา