สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เนื่องจากตลาดปรับตัวตามตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ โฮม ดีโปท์ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ และพายุเฮอร์ริเคน "บิล" ที่ทวีความรุนแรงในมหาสมุทรแอตแลนติกในขณะนี้
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 2.44 ดอลลาร์ หรือ 3.66% ปิดที่ 69.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 66.11-69.58 ดอลลาร์ โดยสัญญาเดือนก.ย.จะครบกำหนดส่งมอบในวันพฤหัสบดีนี้
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.85 เซนต์ ปิดที่ 1.8650 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 4.87 เซนต์ ปิดที่ 2.0002 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ดีดขึ้น 1.83 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.46-72.81 ดอลลาร์
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัท PFGBest Research ในนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า "นักลงทุนในตลาดน้ำมัน NYMEX อ่อนไหวต่อข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการเอกชน รวมทั้งปรับตัวตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก มากกว่าที่จะให้น้ำหนักกับข้อมูลที่มีอิทธิพลต่อตลาดพลังงาน รวมถึงพายุเฮอร์ริเคน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาดูพายุเฮอร์ริเคนบิลว่ามีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายเหมือนกับพายุเฮอร์ริเคนลูกอื่นๆที่พัดถล่มอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐไปก่อนหน้านี้หรือไม่"
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ได้รับแรงซื้ออย่างหนาแน่นหลังจากโฮม ดีโปท์ อิงค์ บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์เครื่องใช้เกี่ยวกับบ้านรายใหญ่สุดของสหรัฐ เผยผลกำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาสสองร่วงลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปีงบการเงิน 2552 หลังจากที่บริษัทได้ดำเนินการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างลดลง 1% แตะระดับ 581,000 ยูนิตในเดือนก.ค. และการอนุญาตก่อสร้างใหม่ร่วง 1.8% แตะระดับ 560,000 ยูนิต แต่ตัวเลขการสร้างบ้านเดี่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2551 และเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 เดือน
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคน "บิล" ทวีความรุนแรงขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติก และอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นเฮอร์ริเคนลูกใหญ่ในขณะมุ่งหน้าสู่เบอร์มิวดาในช่วงปลายสัปดาห์หน้านี้ นับเป็นเฮอร์ริเคนลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกในปีนี้
พายุเฮอร์ริเคนบิลเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุด 90 ไมล์ หรือ 145 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ 75 ไมล์/ชั่วโมง ขณะที่ NHC คาดว่ากำลังลมสูงสุดของพายุเฮอร์ริเคนบิลจะเพิ่มขึ้นเป็น 111 ไมล์/ชั่วโมง ซึ่งจะกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงระดับที่ 3 ตามมาตรวัดของ Saffir-Simpson ภายในวันพฤหัสบดีนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งจะมีการรายงานในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.1%