ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่งแตะ $72.42 หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันร่วงเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 20, 2009 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานยังคงแข็งแกร่งแม้สหรัฐยังคงเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอก็ตาม นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) หลังจากรัฐมนตรีโอเปคบางคนออกมาส่งสัญญาณว่าโอเปคอาจจะคงเพดานการผลิตในการประชุมเดือนหน้า

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 3.23 ดอลลาร์ หรือ 4.67% ปิดที่ 72.42 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 68.05-72.80 ดอลลาร์ โดยสัญญาน้ำมันดิบเดือนก.ย.จะครบกำหนดส่งมอบในวันพฤหัสบดีนี้

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 5.37 เซนต์ ปิดที่ 1.9187 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.44 เซนต์ ปิดที่ 2.0346 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

สตีเฟ่น ชอร์ก นักวิเคราะห์ด้านพลังงานชื่อดังของสหรัฐกล่าวว่า รายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดของสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX อย่างหนาแน่น เพราะความเชื่อมั่นที่ว่าดีมานด์พลังงานที่แข็งแกร่งจะหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย ส่งผลให้สัญญาน้ำมันทะยานขึ้นเหนือระดับ 72 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 14 ส.ค. ร่วงลง 8.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 343.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 700,000 บาร์เรล แตะระดับ 161.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 209.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.5% แตะระดับ 84%

นักลงทุนจับตาดูรายงานของศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐที่ระบุว่า พายุเฮอร์ริเคน "บิล" ทวีกำลังขึ้นจนกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 3 ตามมาตรวัดของ Saffir-Simpson หลังจากเคลื่อนตัวผ่านมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยกำลังลมสูงสุด 740 กิโลเมตร/ชั่วโมง และพัดขึ้นฝั่งตะวันออกของเมืองลีวาร์ด ไอร์แลนด์ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางในสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมโอเปคซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.ที่กรุงเวียนนา หลังจากชี้ค อาหมัด อับดุลเลาะห์ อัล ซาบาห์ รัฐมนตรีน้ำมันคูเวตหนุนให้กลุ่มโอเปคตรึงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิม โดยให้เหตุผลว่าราคาน้ำมันที่เคลื่อนไหวในระดับ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรลในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย และคาดว่าดีมานด์พลังงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในสิ้นปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ