ริโอ ทินโต กรุ๊ป บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เผยกำไรช่วงครึ่งปีแรกร่วง 65% หลังจากที่ราคาทองแดง สินแร่เหล็ก และอลูมิเนียม ปรับตัวลดลง
โดยรายได้สุทธิของบริษัทลดลงเหลือ 2.5 พันล้านดอลลาร์ จาก 6.95 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ส่วนผลประกอบการไม่นับรวม one-time item บางส่วนร่วงลง 54% แตะ 2.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 2.73 พันล้านดอลลาร์
ทอม อัลบานีส ซีอีโอของบริษัท ต้องต่อสู้กับหนี้สินที่พอกพูนหลังจากที่บริษัททุ่มทุน 3.81 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเทคโอเวอร์บริษัทผลิตอลูมิเนียมสัญชาติแคนาดานาม อัลคัน อิงค์ เมื่อปี 2550 โดยบริษัทพยายามลดต้นทุน ปลดพนักงาน และระดมทุน 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านการขายหุ้นในเดือนมิ.ย. พร้อมกันนั้นยังร่วมทุนกับ บีเอชพี บิลลิตัน เพื่อนำเงินมาใช้หนี้หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างหนัก
"เราหวังว่าริโอจะเร่งฟื้นฟูธุรกิจ หลังจากที่มีการใช้หนี้จำนวนหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว" นิค แฮทช์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ไอเอ็นจี กรุ๊ป เอ็นวี ในลอนดอน ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นริโอขยับลง 0.3% แตะ 58.03 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ณ เวลา 16.10 น.ตามเวลาซิดนีย์ แต่ปรับตัวสูงขึ้น 94% นับตั้งแต่ต้นปี