คณะกรรมการกำกับดูแลด้านธัญพืชของสหรัฐกล่าวว่า ทางการอินเดียอาจสั่งห้ามส่งออกข้าวโพดเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน หลังสภาพอากาศที่แห้งแล้งสุดในรอบ 7 ปีทำให้ผลผลิตลดลง
"โอกาสที่ทางการจะสั่งห้ามส่งออกข้าวโพดมีมาก หากราคาข้าวโพดสูงขึ้นอีก" อามิท แซคเดฟ ผู้แทนจากคณะกรรมการกำกับดูแลด้านธัญพืชของสหรัฐประจำอินเดีย กล่าว
สภาพอากาศแห้งแล้งใน 40% ของพื้นที่เพาะปลูกในอินเดีย อาจทำให้ผลผลิตข้าวโพดลดลง และหากอินเดียระงับการส่งออกข้าวโพดจริง ซัพพลายเออร์ในสหรัฐและลาตินอเมริกาก็จะขายข้าวโพดได้มากขึ้น ซึ่งอาจช่วยหนุนราคาข้าวโพดที่ร่วงกว่า 45% ในช่วงปีที่ผ่านมา
"การเพาะปลูกข้าวโพดได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะฝนแล้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตแน่นอน" แซคเดฟ กล่าว "อย่างไรก็ตาม เรายังไม่สามารถบอกได้ว่าผลผลิตข้าวโพดจะลดลงมากน้อยแค่ไหน"
อินเดียขายข้าวโพดส่วนมากให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย โดยยอดส่งออกข้าวโพดของอินเดียอยู่ที่ 1 ล้านตันนับตั้งแต่ทางการยกเลิกการสั่งห้ามส่งออกข้าวโพดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมปีที่แล้ว หลังจากที่ในเดือนกรกฎาคมได้มีการสั่งห้ามส่งออกข้าวโพดเนื่องจากราคาพุ่งสูง
ณ วันที่ 12 สิงหาคม เกษตรกรในอินเดียปลูกข้าวโพดเพิ่มขึ้นแตะ 6.75 ล้านเฮคเตอร์ จาก 6.59 ล้านเฮคเตอร์ในปีที่แล้ว และในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาราคาข้าวโพดในตลาดมุมไบปรับตัวสูงขึ้นถึง 20% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าผลผลิตจะลดลงเนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้ง
ส่วนในชิคาโก้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบดือนธันวาคมลดลง 0.8% แตะ 3.3275 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ณ เวลา 9.13 น.ตามเวลาซิดนีย์ บลูมเบิร์กรายงาน