มารูเบนิคาดราคายางไต่ขึ้น 19% ภายในปีหน้า หลังยอดขายรถในจีนเพิ่มหนุนดีมานด์ยาง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 2, 2009 14:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มารูเบนิ คอร์ป บริษัทค้าขายสินค้าโภคภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า ราคายางจะไต่ระดับขึ้นถึง 19% ภายในสิ้นปีหน้า เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในจีนได้ส่งผลให้ความต้องการยางสูงขึ้น

โรกะ โคมิยะ เทรดเดอร์ของมารูเบนิกล่าวกับบลูมเบิร์กว่า ราคายางที่ซื้อขายกันในปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.10 ดอลลาร์ แต่อาจจะลดลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 1.50 ดอลลาร์ในปลายปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวอีกครั้งในปีหน้า โดยในช่วง 6 เดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 ราคายางอาจจะอยู่ในช่วง 1.80 - 2.30 ดอลลาร์/กิโลกรัม และจะขยับขึ้นเป็น 2 - 2.50 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีหลัง

สำหรับสัญญายางล่วงหน้าในโตเกียวพุ่งขึ้น 46% แล้วในปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยเริ่มคลี่คลาย และดีมานด์จากผู้ผลิตยางรถยนต์ปรับตัวขึ้น ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรายใหญ่สุดของโลกอย่าง บริดจ์สโตน (Bridgestone Corp.) และ มิชลิน (Michelin & Cie) หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐ เยอรมนี และญี่ปุ่นได้เปิดตัวโครงการกระตุ้นให้ประชาชนซื้อรถใหม่เพื่อค้ำจุนอุตสาหกรรมยานยนต์จากภาวะตกต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่ยอดขายรถในจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคยางธรรมชาติรายใหญ่สุดของโลกทะยาน 71% ในเดือนก.ค.

"ดีมานด์ในประเทศจีนจะยังคงปรับตัวขึ้น เนื่องจากเรายังไม่เห็นปัจจัยลบเลย" คาซูทากะ โซโนโมโตะ ผู้จัดการแผนกค้ายางของมารูเบนิในกรุงโตเกียวกล่าว โดยมีปัจจัยเร่งมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์จีน

ราคายางส่งมอบเดือนก.พ. เคลื่อนไหวอยู่ที่ 198.8 เยนต่อกิโลกรัม (2,141 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน) ในการซื้อขายที่ตลาด TOCOM ณ เวลา 13.27 น.ในกรุงโตเกียว โดยราคาขยับขึ้นถึง 214.5 เยนเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.ปีก่อน

ทั้งนี้ มารูเบนิผลิตยางแผ่นและยางแท่งที่โรงงาน 2 แห่งในไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกยางรายใหญ่สุดของโลก โดยโรงงานทั้ง 2 แห่งมีกำลังการผลิตรวมกันอยู่ที่ 100,000 ตันต่อปี

"เราต้องการโรงงานผลิตในประเทศอื่นๆด้วย" โซโนโมโตะกล่าว "เอเชียเป็นศูนย์กลางการเติบโตสำหรับยางธรรมชาติ และเราจะเพิ่มปริมาณการค้าในภูมิภาคนี้"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ