กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเป้าหมายการผลิตน้ำมันไว้เท่าเดิม 24.845 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อคืนนี้ โดยโอเปคกล่าวว่าปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจคงเป้าหมายการผลิตไว้ที่เดิมก็เพราะตลาดน้ำมันดิบอยู่ในภาวะ "โอเวอร์ซัพพลาย" และหลายประเทศมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
"เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว เรามองว่าตลาดน้ำมันดิบยังอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ขณะที่หลายฝ่ายก็แสดงความกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกนั้นได้ดีดตัวขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเคลื่อนตัวผันผวนอย่างหนักเมื่อ 14 เดือนที่แล้ว" นายโอมาร์ อิบราฮิม โฆษกโอเปคกล่าว
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปคจะคงเป้าหมายการผลิตไว้ที่ 24.845 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากโอเปคประสบความสำเร็จในการหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นในรอบ 5 ปี
เอ็ดเวิร์ด มอร์ส หัวหน้านักวิเคราะห์จาก LCM Commodities LLC ในนิวยอร์ก กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า "จากการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ารัฐมนตรีโอเปคมีท่าทีพอใจกับราคาน้ำมันที่เคลื่อนไหวอยู่ในระดับปัจจุบัน จึงมีความเป็นไปได้สูงกว่าในการประชุมวันพุธนี้ โอเปคจะคงเป้าหมายการผลิตไว้ที่ 24.845 ล้านบาร์เรลต่อวัน"
ขณะที่ไมค วิทเนอร์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากโซซิเอเต เจนเนอรัล ในลอนดอนกล่าวว่า "กลุ่มโอเปคทราบดีว่าเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ใน 'ระยะฟื้นตัว' หากโอเปคลดโควต้าการผลิตในช่วงนี้ก็นับเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้ราคาน้ำมันตกอยู่ในสภาวะที่ควบคุมไม่ได้"