ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดดีดขึ้น 13 เซนต์ จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ข่าวต่างประเทศ Saturday September 26, 2009 07:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดดีดขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากเทรดเดอร์เข้าซื้อหลังจากที่ราคาน้ำมันดิ่งลงสองวันที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีขึ้นเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ตลอดจนกระแสคาดการณ์ดอลลาร์อ่อนค่าหลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐได้ออกมากล่าวว่าเขาจะให้การสนับสนุนโครงการกู้ยืมต่อไป

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 66.02 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก 8.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากสุดในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.ขยับลงไม่ถึงเพนนี ปิดที่ 1.6771 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ลดลงเกือบ 2 เซนต์ ปิดที่ 1.6205 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ ปิดที่ 65.11 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์หลังจากที่รายงานของรัฐบาลเผยให้เห็นว่า สหรัฐยังมีอุปทานปิโตรเลียมส่วนเกินอยู่มาก ขณะที่ฤดูขับขี่ในหน้าร้อนใกล้จะสิ้นสุดลง

อย่างไรก็ดี เริ่มมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้งในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ร่วงลงมากเกินไป

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ และผู้นำฝรั่งเศสและอังกฤษ ได้ออกแถลงการณ์เตือนอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งได้จุดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกกลาง

"อิหร่านกำลังฝ่าฝืนกฎซึ่งทุกชาติต้องปฏิบัติตาม" โอบามากล่าวในการประชุมสุดยอด G-20 ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก

ทั้งนี้ การลงดาบอิหร่านไม่ว่าด้วยวิธีการใดจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มโอเปค รองจากซาอุดิอาระเบีย และชายแดนตอนใต้ของอิหร่านอยู่ติดกับช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญที่เรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่จะบรรทุกน้ำมันดิบจากอ่าวเปอร์เซียเพื่อนำไปส่งยังทั่วทุกมุมโลก

ราคาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่เบน เบอร์นันเก้ ผู้ว่าการเฟด กล่าวว่าเขาจะให้การสนับสนุนการปล่อยกู้ในตลาดต่อไป โดยการขยายเวลาโครงการปล่อยกู้ฉุกเฉินภายใต้โครงการ TALF ซึ่งเป็นโครงการปล่อยกู้ให้กับผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งตลาดมองความเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะนำไปสู่การอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์ และผลักดันให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ำมัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ