กระทรวงพลังงานรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ต.ค. ลดลง 1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 337.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล แตะที่ 171.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 214.4 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.4% แตะที่ 85.0%
บลูมเบิร์กรายงานว่า สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปีพ.ศ. 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย