สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนว่า อัตราการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและการสำรวจน้ำมันที่ลดลงอย่างหนักอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในอนาคต
"อัตราการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานลดลงอย่างหนัก โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาและการสำรวจแหล่งสำรองน้ำมัน ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความเสี่ยงที่จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในอนาคต โดยคาดว่าอัตราการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานจะร่วงลงราว 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือลดลง 20% จากปีที่แล้ว" ฟาตีห์ ไบรอล หัวหน้านักวิเคราะห์ของ IEA กล่าวในที่ประชุมในกรุงปารีส
ไบรอลกล่าวว่า "หากอัตราการลงทุนยังลดลงเช่นนี้ต่อไป ทั่วโลกอาจต้องเผชิญวิกฤตพลังงานในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากซัพพลายจะมีไม่พอรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งภาวะซัพพลายหดตัวเป็นผลมาจากการลงทุนที่น้อยลงนั่นเอง สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ตลาดพลังงานไร้เสถียรภาพ"
ด้านนายโนบูโอะ ทานากะ ผู้อำนวยการบริหาร IEA ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้น 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.18 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยหนุนดีมานด์พลังงานให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการปรับเพิ่มคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันทั่วโลกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ)
โดยโอเปคคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นอีก 700,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 84.93 ดอลลาร์ต่อวัน เนื่องจากความต้องการน้ำมันในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีนและอินเดีย พุ่งสูงขึ้น
ขณะที่ไออีเอคาดว่าความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปีหน้าจะอยู่ที่ 86.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.7% จากปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่าความต้องการน้ำมันในปีหน้าจะอยู่ที่ 85.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน