ศาสตราจารย์ นูเรียล รูบินี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กที่เคยคาดการณ์ว่า จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก กล่าวแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม Inside Commodities Conference ที่นิวยอร์กวันนี้ว่า การที่นายจิม โรเจอร์ส เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และเจ้าของบริษัท โรเจอร์ส โฮลดิ้งส์ คาดการณ์ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ถือเป็นการคาดการณ์ที่"เพียงแต่ใช้คำพูดอย่างไร้เหตุผล"
"เศรษฐกิจโลกในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อหรือวิกฤตการณ์รุนแรงที่จะผลักดันราคาทองคำให้พุ่งขึ้นไปแตะระดับดังกล่าวได้ หรือหากวิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ประชาชนก็จะนำเงินไปซื้ออาหารสำเร็จรูปกักตุนเอาไว้มากกว่า ดูจากคำพูดแล้วผมคิดว่าคุณโรเจอร์สเองต่างหากที่ต้องการให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึงระดับนั้น" ศาสตราจารย์รูบินีกล่าว
ศาสตราจารย์นูเรียลยังกล่าวด้วยว่า "การใช้คำพูดพยากรณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปแตะ 1,100 ดอลลาร์ หรือ 1,500 ดอลลาร์ หรือ 2,000 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นการพูดที่ไร้สาระมาก ดูตัวอย่างราคาน้ำมันดิบ จะพบว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะชี้ชัดว่าราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานเรื่องดีมานด์และซัพพลาย เพราะมีการเก็งกำไรในตลาดน้ำมันและอาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาด ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องจำกัดการทำโพสิชั่นในตลาดน้ำมันเพื่อลดความผันผวน เพราะราคาน้ำมันที่เคลื่อนตัวหวือหวาเกินไปจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลก"
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์นูเรียลย้ำว่า ราคาสินทรัพย์ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูงสูงเกินไปและเพิ่มขึ้นรวดเร็วเกินไป
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX พุ่งขึ้นอีก 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,087.30 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ เพราะได้ปัจจัยบวกข่าวธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนแอลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง