ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่สุดของโลก วางแผนซื้อข้าวจากต่างประเทศในปริมาณ 600,000 เมตริกตัน ซึ่งเป็นสถิติการนำเข้าข้าวครั้งใหญ่สุดในรอบ 2 ปี หลังจากพื้นที่เพาะปลูกในฟิลิปปินส์ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุไต้ฝุ่น ซึ่งการนำเข้าข้าวในปริมาณมากเช่นนี้อาจทำให้เกิดการแข่งขันประมูลซื้อข้าวทั่วโลกและอาจทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นด้วย
สำนักงานอาหารแห่งชาติของฟิลิปปินส์จะซื้อข้าว 25% ในการประมูลครั้งที่สองซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 1 ธ.ค.นี้เพื่อรองรับความต้องการในปี 2553 โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานอาหารแห่งชาติได้ตกลงซื้อข้าวในปริมาณ 250,000 เมตริกตันเพื่อการส่งมอบในปีหน้า
ปีเตอร์ แมคไกว กรรมการผู้จัดการบริษัท CWA Global Markets กล่าวว่า การที่ฟิลิปปินส์ซื้อข้าวในปริมาณมากเช่นนี้อาจทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น และอาจทำให้ต้นทุนการซื้อข้าวของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่นายอาร์เธอร์ ยัพ รมว.เกษตรฟิลิปปินส์คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า ราคาข้าวในโลกโลกจะดีดขึ้นไปยืนที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหมือนในปี 2551
"ฟิลิปปินส์ซื้อข้าวล็อตใหญ่มากในครั้งนี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาข้าวทะยานขึ้นไปแตะระดับ 18 ดอลลาร์/100 ปอนด์ในเดือนก.พ.หรือมี.ค.ปีหน้า" แมคไกวกล่าว
บลูมเบิร์กรายงาน สัญญาข้าวในตลาด CBOT พุ่งขึ้น 13% ในเดือนที่แล้วเนื่องจากความกังวลที่ว่าซัพพลายข้าวทั่วโลกจะหดตัวลง ส่วนการซื้อขายสัญญาข้าว CBOT ทางระบบอิเล็กทรอนิกในช่วงเช้านี้ที่สิงคโปร์ ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 15.15 ดอลลาร์/100ปอนด์
ก่อนหน้านี้ จิม โรเจอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับแนวหน้าของโลกและเจ้าของบริษัท โรเจอร์ส โฮลดิ้งส์ คาดการณ์ว่า ราคาข้าวจะพุ่งขึ้นในช่วง 10 ปีข้างหน้า ในขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆจะทะยานขึ้นด้วย เนื่องจากสต็อกสินค้าปรับตัวลดลงและเกิดปัญหาติดขัดด้านการผลิต