ราคาน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น 7% ในไตรมาสแรกเพราะได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ในจีนและอินเดียที่ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก
โดราบ มิสทรี ผอ.บริษัท Godrej International Ltd. กล่าวว่า "อุปสงค์จากจีนและอินเดียกลับมาฟื้นตัวเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าสัญญาน้ำมันปาล์มล่วงหน้าจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นและอาจพุ่งแตะระดับเป้าหมายที่ 2,400 ริงกิตในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 และคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มในขณะนี้มีราคาเท่ากับ 709 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน"
โดยในปีนี้น้ำมันปาล์มไต่ระดับขึ้น 33% หลังราคาน้ำมันขยายตัว 75% ขณะที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นและฝนที่ตกลงมาได้ส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก และปัญหาดังกล่าวทำให้ผลผลิตน้ำมันถั่วเหลืองลดน้อยลง
มิสทรีกล่าวว่า แนวโน้มราคาในปีหน้าดูเหมือนว่าจะอยู่ในระดับที่ดี แต่ทั้งนี้ราคาจะเคลื่อนไหวตามต้นทุนพลังงาน โดยเขาคาดว่าฐานราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ประมาณ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ภาพรวมสถานการณ์ในจีนและอินเดียในขณะนี้ค่อนข้างไปได้สวยและมีความเป็นไปได้ว่าทั้งสองประเทศจะเริ่มเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันปาล์มในมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับ 2 อาจพุ่งสูงถึง 2.1 ล้านตันในสิ้นเดือนธ.ค.ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงปีใหม่
บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันปาล์มล่วงหน้างวดส่งมอบเดือนม.ค.ปีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 2,246 ริงกิต (660 ดอลลาร์/ตัน) ในการซื้อขายที่ตลาดมาเลเซียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา