สตีเฟ่น ชอร์ก ประธานบริษัท ชอร์ก กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัที่ปรึกษาด้านพลังงานรายใหญ่ในสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กำลังเพิ่มปริมาณการผลิตในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี ทำให้สต็อกน้ำมันดิบของโอเปคพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังไม่ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในเร็วนี้
ชอร์กกล่าวว่า โอเปคเพิ่มปริมาณการผลิต 4% ต่อวัน หรือ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่กษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดิอาระเบียระบุว่าราคาน้ำมันที่ระดับ 75 ดอลลาร์เป็นระดับที่ยุติธรรมสำหรับผู้ใช้และผู้ผลิต พร้อมกล่าวว่าซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 50% หรือ 4 ล้านบาร์เรล/วัน
"ราคาน้ำมันดิที่ระดับ 100 ดอลลาร์ไม่เป็นผลดีต่อโอเปค เพราะโอเปครู้ดีว่าบรรดานักเก็งกำไรยังคงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีไม่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคนใดเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 100 ดอลลาร์ก่อนถึงปลายปีหน้า" ชอร์กกล่าว
บลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนธ.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก พุ่งขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.2% แตะที่ 78.38 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าบริษัทน้ำมันหลายแห่งในอ่าวเม็กซิโกพากันอพยพพนักงานและระงับการผลิตบางส่วนเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคน "ไอด้า" ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถผิลน้ำมันดิบได้กว่า 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตโดยรวมในสหรัฐ