สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ รายงานที่ว่าพายุเฮอร์ริเคน "ไอด้า" เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกและส่งผลให้บริษัทพลังงานหลายแห่งรวมถึงบีพีและเชฟรอนต้องอพยพคนงาน ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักด้วย
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 79.80-79.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.9 เซนต์ ปิดที่ 2.0627 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ ปิดที่ 1.9818 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาก๊าซธรรมชาติส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 7.5 เซนต์ ปิดที่ 4.67 ดอลลาร์/1,000 ลูกบาศก์ฟุต
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จาก PFGBest กล่าวว่า สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นตลอดวันเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และหลังจากมีรายงานว่าบริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก รวมถึงบีพีและเชฟรอน สั่งอพยพพนักงานและระงับการผลิตบางส่วนเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคนไอด้าทวีความรุนแรงขึ้นขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวสามารถผิลน้ำมันดิบได้กว่า 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตโดยรวมในสหรัฐ
หนังสือพิมพ์ EFE รายงานว่า บริษัท ปิโตรเลออส เม็กซิคานอส ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเม็กซิโกสั่งปิดแท่นขุดน้ำมัน 90 แห่งนอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐเวราครูซ เนื่องจากอิทธิพลของพายุไอด้าส่งผลให้เกิดพายุโหมกระหน่ำและน้ำท่วมหนัก ขณะที่บริษัท เชฟรอน คอร์ป และบริษัท บีพี พีแอลซี ได้อพยพพนักงานในแผนกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตและได้ปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันบางส่วนในอ่าวเม็กซิโก
นอกจากนี้ บริษัท เวเธอร์ อินไซท์ แอลพี วางแผนระงับการผลิตที่แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบราว 700,000 บาร์เรล/วัน และระงับการผลิตก๊าซธรรมชาติ 3 พันล้านลูกบาศก์ฟุตในวันพุธนี้ เพราะเกรงว่าแท่นขุดเจาะจะได้รับความเสียหายจากพายุไอด้า
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนไอด้าเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุด 105 ไมล์/ชั่วโมง โดยคาดว่าพายุไอด้าซึ่งเป็นพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงในระดับ 2 จะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโกก่อนเวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐในวันที่ 10 พ.ย.และคาดว่าจะสร้างความเสียหายในพื้นที่ตลอดแนวแกรนด์ ไอเซิล มลรัฐหลุยส์เซียน่า ไปจนถึงชายหาดเม็กซิโกในรัฐฟลอริด้า
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 300,000 บาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะทรงตัว นอกจากนี้คาดว่าอัตราการใช้ กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%
สตีเฟ่น ชอร์ก ประธานบริษัท ชอร์ก กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัที่ปรึกษาด้านพลังงานรายใหญ่ในสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กำลังเพิ่มปริมาณการผลิตในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปี ทำให้สต็อกน้ำมันดิบของโอเปคพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังไม่ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในเร็วๆนี้