ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $2.34 หลังสต็อกน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Friday November 13, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลให้ผู้ขับขี่ยานยนต์และภาคธุรกิจในสหรัฐลดการใช้จ่ายด้านพลังงาน

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.55-77.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 6.48 เซนต์ ปิดที่ 1.991 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.22 เซนต์ ปิดที่ 1.9405 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 1.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.02 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ย.พุ่งขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 337.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 210.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล แตะที่ 167.7 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.7% แตะที่ 79.9%

ปีเตอร์ บูเทล นักวิเคราะห์จากบริษัท Cameron Hanover กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนักเนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาดบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอัตราว่างงานที่สูงขึ้นกำลังส่งผลให้ผู้บริโภคและภาคเอกชนของสหรัฐลดการใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมพลังงานในประเทศ

บูเทลกล่าวว่า แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าบางภาคส่วนของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่อัตราว่างงานที่ยังคงพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงบ่งชี้ว่าสหรัฐยังคงเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนต.ค.ร่วงลง 190,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 175,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานในสหรัฐยังอยู่ในภาวะที่ตึงตัวมาก

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2552 เป็น 84.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 84.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้น้อยกว่าดีมานด์น้ำมันปีที่แล้วอยู่ 1.7% หรือ 1.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ไออีเอยังได้ปรับทบทวนคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปีหน้าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 86.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในรายงานเดือนต.ค.อยู่ 500,000 บาร์เรลต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ไออีเอเตือนว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันที่กำลังฟื้นตัว รวมถึงเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้

ไออีเอระบุในรายงานประจำเดือนพ.ย.ว่า จีน ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอเมริกา จะเป็นแกนนำผลักดันให้ดีมานด์น้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า แต่ขณะเดียวกันก็ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐยังมีความไม่แน่นอน เมื่อพิจารณาจากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ