ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วงต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องดีมานด์พลังงาน

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 14, 2009 08:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงร่วงต่อเนื่องลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเดือนเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับดีมานด์น้ำมันและสต็อกน้ำมันสหรัฐที่เพิ่มสูงทำสถิติ

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 76.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาได้ร่วงลงแตะระดับ 75.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.49 เซนต์ ปิดที่ 1.9661 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.43 เซนต์ ปิดที่ 1.9162 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 47 เซนต์ ปิดที่ 75.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบร่วงลง 0.8% หลังจากที่รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.ที่ร่วงลงมาอยู่ที่ 66.0 จากระดับ 70.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งได้จุดกระแสความกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันจะปรับตัวลดลง

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานปริมาณน้ำมันสำรองของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (อีไอเอ) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด

อีไอเอในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐได้รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ย.พุ่งขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 337.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 210.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล แตะที่ 167.7 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.7% แตะที่ 79.9%

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อในสกุลเงินอื่น โดยเมื่อวันศุกร์ ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1.4922 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.485 ดอลลาร์ในวันก่อน

เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนซื้อวัตถุดิบเพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน โดยเกือบตลอดทั้งปีนี้ ราคาน้ำมันได้ทะยานขึ้น เนื่องจากนักลงทุนได้แห่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อปกป้องตนเองจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง นอกจากนี้ นักลงทุนเลือกที่จะเสี่ยงลงทุนในน้ำมันเพื่อเก็งกำไร เนื่องจากคาดว่าดีมานด์พลังงานจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคม ผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆจึงใช้น้ำมันเบนซีนและดีเซลน้อยลง ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงบริษัทผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่น โดยข้อมูลจากอีไอเอในสัปดาห์นี้เผยให้เห็นว่า โรงกลั่นหลายแห่งดำเนินการผลิตที่ระดับต่ำสุด

ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จาก พีเอจีเบสท์ กล่าวว่า นี่ถือเป็นสัญญาณปลุก นักลงทุนเริ่มตระหนักว่า บางทีน้ำมันอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดในการลงทุนเพื่อเก็งกำไร ด้าน เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอ็กซอนโมบิล กล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจต่ำกว่านี้อีก ถ้าราคาขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องดีมานด์-ซัพพลายเพียงปัจจัยเดียว

จีน แมคกิลเลียน นักวิเคราะห์และโบรกเกอร์จากแทรดิชั่น เอนเนอร์จี กล่าวว่า ในช่วง 4-6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวก แต่ไม่ได้มีข้อพิสูจน์ว่าดีมานด์พลังงานจะเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับอดัม ไซเอมมินสกี จากดอยช์แบงก์ ที่กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่ดีมานด์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลับยังไม่ค่อยฟื้นตัวมากนัก ขณะที่ปริมาณน้ำมันสำรองกลับสูงมาก โดยเฉพาะดีเซลและฮีทติ้งออยล์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ