สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่สิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และทิศทางอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกในปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
ในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบเดือนธ.ค.ขยายตัว 86 เซนต์ แตะที่ 77.21 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 76.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในระหว่างการซื้อขาย ราคาน้ำมันได้ร่วงลงแตะระดับ 75.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.
นักวิเคราะห์คาดว่า อุปสงค์น้ำมันในปีหน้าจะขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกเริ่มแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอริล ลินช์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยขึ้นเป็น 85 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล
"อุปทานน้ำมันที่ตึงตัวประกอบกับปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์และการผ่อนคลายนโยบายการเงิน รวมถึงสถานการณ์เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงล้วนกระตุ้นให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงปี 2554"
โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.4963 ดอลลาร์/ยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเอเชียช่วงเช้า เมื่อเทียบกับระดับ 1.4923 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวทรงตัวที่ระดับ 89.55 เยน/ดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันทะยานขึ้นจากระดับ 32 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนธ.ค.หลังผ่านพ้นวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกเริ่มรอดพ้นจากภาวะถดถอย
อเล็กซานเดอร์ เมดเวเดฟ รองประธานของก๊าซพรอมกล่าวว่า "ราคาน้ำมันผ่านพ้นช่วงที่ดิ่งลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดมาแล้ว และต่อไปนี้ราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวอยู่ราวๆ 75-85 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า"