สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ และติดตามความเคลื่อนไหวของพายุเฮอร์ริเคน"ไอด้า"
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดตลาดที่ 79.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.65 เซนต์ ปิดที่ 2.0585 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.81 เซนต์ ปิดที่ 2.0049 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ดีดขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 78.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จาก PFGBest กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนยังคงเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบต่อเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 70.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 0.4%
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้รับแรงหนุนหลังจากมาสเตอร์การ์ด สเปนดิ้งพัลซ์ รายงานว่าดีมานด์น้ำมันเบนซินของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 13 พ.ย.อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 9.224 ล้านบาร์เรล/วัน พุ่งขึ้น 1.4% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
นักลงทุนให้ความสนใจกับการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ที่ประเทศแองโกลา หลังจากนายอับดุลเลาะห์ บิล อาหมัด อัล อัตติยะห์ รมว.พลังงานของกาตาร์ออกมาส่งสัญญาณว่า โอเปคอาจจะไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่รัฐมนตรีน้ำมันคูเวตคาดว่ากลุ่มโอเปคจะตรึงปริมาณการผลิตไว้ที่ระดับเดิม แต่จะผลักดันให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามโควต้าการผลิตอย่างเคร่งครัดมากขึ้นในการประชุมเดือนธ.ค.
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะดีดตัวขึ้น 0.1% เป็น 80%
นอกจากนี้ ตลาดยังติดตามความเคลื่อนไหวของพายุเฮอร์ริเคนไอด้า หลังจากอิทธิพลของพายุไอด้าส่งผลให้บริษัทน้ำมันหลายแห่งในอ่าวเม็กซิโกพากันอพยพพนักงานและระงับการผลิตบางส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอ่าวเม็กซิโกเป็นพื้นที่ที่สามารถผลิตน้ำมันดิบได้กว่า 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตโดยรวมในสหรัฐ