สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) คาดการณ์ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่จะนำรถยนต์ออกไปขับขี่บนทางหลวงจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงวันหยุดสัปดาห์หน้า เนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า)
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ดีดขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 79.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 78.67-80.33 ดอลลาร์ ซึ่งสัญญาน้ำมันดิบเดือนธ.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันศุกร์นี้
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 0.99 เซนต์ ปิดที่ 2.0486 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 0.65 เซนต์ ปิดที่ 2.0114 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 79.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ริค มุลเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Energy Security Analysis Inc กล่าวว่า "สัญญาน้ำมันดิบเดือนธ.ค.ซึ่งจะครบกำหนดส่งมอบในวันศุกร์ดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์พลังงานยังคงแข็งแกร่งแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นไม่มากนักเพราะถูกกดดันจากรายงานตัวเลขสร้างบ้านที่ลดลงของสหรัฐ"
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 13 พ.ย.ลดลง 900,000 บาร์เรล แตะที่ 336.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 300,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 300,000 บาร์เรล แตะที่ 167.4 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 209.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5% แตะที่ 79.4%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและอพาร์ทเมนท์ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 10.6% แตะที่ 529,000 ยูนิต/ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนต.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% แตะที่ 600,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 ขณะที่อัตราการอนุญาตก่อสร้างบ้านร่วงลง 4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9%
AAA คาดการณ์ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่จะนำรถยนต์ออกไปขับขี่บนทางหลวงจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงวันหยุดสัปดาห์หน้า เนื่องในวัน Thanksgiving จะมีอยู่อย่างน้อย 33.2 ล้านคน และจะวิ่งในระยะไกลอย่างน้อย 50 ไมล์ หรือ 80 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.1% จากปีที่แล้ว แม้ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วก็ตาม
นักลงทุนจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ที่ประเทศแองโกลา หลังจากนายอับดุลเลาะห์ บิล อาหมัด อัล อัตติยะห์ รมว.พลังงานของกาตาร์ออกมาส่งสัญญาณว่า โอเปคอาจจะไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่รัฐมนตรีน้ำมันคูเวตคาดว่ากลุ่มโอเปคจะตรึงปริมาณการผลิตไว้ที่ระดับเดิม แต่จะผลักดันให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามโควต้าการผลิตอย่างเคร่งครัดมากขึ้นในการประชุมเดือนธ.ค.