สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่สิงคโปร์ ร่วงลง 18 เซนต์ แตะที่ 79.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 79.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านที่ร่วงลงเหนือความคาดหมาย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและอพาร์ทเมนท์ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 10.6% แตะที่ 529,000 หลัง/ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนต.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% แตะที่ 600,000 หลังต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 ขณะที่อัตราการอนุญาตก่อสร้างบ้านร่วงลง 4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9%
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 79 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนยังเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังแข็งแกร่ง หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 13 พ.ย.ลดลง 900,000 บาร์เรล แตะที่ 336.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 300,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 300,000 บาร์เรล แตะที่ 167.4 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 209.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5% แตะที่ 79.4%
นอกจากนี้ สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) คาดการณ์ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่จะนำรถยนต์ออกไปขับขี่บนทางหลวงจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงวันหยุดสัปดาห์หน้า เนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า) จะมีอยู่อย่างน้อย 33.2 ล้านคน และจะวิ่งในระยะไกลอย่างน้อย 50 ไมล์ หรือ 80 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.1% จากปีที่แล้ว แม้ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วก็ตาม