สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ร่วงลง รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้นและรายงานสต็อกก๊าซธรรมชาติที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.66% ปิดที่ 77.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.06-79.87 ดอลลาร์ โดยสัญญาเดือนธ.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันศุกร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.22 เซนต์ ปิดที่ 1.9964 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.19 เซนต์ ปิดที่ 1.9695 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 1.83 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 77.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
สตีเฟ่น ชอร์ค ประธานบริษัท ชอร์ค กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานในรัฐเพนซิลวาเนีย กล่าวกับเอพีว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐ ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กซบเซาและทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมัน โดยปัจจัยลบส่วนใหญ่มาจากตัวเลขการสร้างบ้านเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 10.6% แตะที่ 529,000 ยูนิต/ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7% แตะที่ 600,000 ยูนิตต่อปี ขณะที่อัตราการอนุญาตก่อสร้างบ้านร่วงลง 4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (ไออีเอ) รายงานว่า สต็อกก๊าซธรรมชาติในสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุต แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.8 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย.
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หลังจากทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันพุธ หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 13 พ.ย.ลดลง 900,000 บาร์เรล แตะที่ 336.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 209.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
นักลงทุนจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ที่ประเทศแองโกลา หลังจากนายอับดุลเลาะห์ บิล อาหมัด อัล อัตติยะห์ รมว.พลังงานของกาตาร์ออกมาส่งสัญญาณว่า โอเปคอาจจะไม่ปรับเพิ่มโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่รัฐมนตรีน้ำมันคูเวตคาดว่ากลุ่มโอเปคจะตรึงปริมาณการผลิตไว้ที่ระดับเดิม แต่จะผลักดันให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามโควต้าการผลิตอย่างเคร่งครัดมากขึ้นในการประชุมเดือนธ.ค.