สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) โดยสัญญาทะยานขึ้นเกือบแตะระดับ 80 ดอลลาร์ในระหว่างวันเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และยอดขายบ้านมือสองที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวนั้น จะช่วยหนุนดีมานด์พลังงานให้ดีดตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 77.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.15-79.92 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.43 เซนต์ ปิดที่ 1.9799 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.12 เซนต์ ปิดที่ 1.9794 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ ปิดที่ 77.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.12-79.58 ดอลลาร์
โทบี้ ฮัสซาล นักวิเคราะห์จากบริษัท ซีดับเบิ้ลยูเอ โกลบอล มาร์เก็ตส์ กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า "การร่วงลงของสกุลเงินดอลลาร์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ก่อนที่จะถอยลงมาปิดที่ระดับ 77.56 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยดอลลาร์ร่วงลงหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำของสหรัฐทำให้นักลงทุนไม่ต้องการเสี่ยงที่จะถือครองสกุลเงินดอลลาร์ แต่หันเข้าเทรดในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์"
ฮัสซาลกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กคึกคักขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 10.1% แตะระดับ 6.10 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2550 มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3% และมากกว่าเดือนก.ย.ที่ระดับ 5.54 ล้านยูนิต/ปี
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (อีไอเอ) สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 พ.ย.จะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์ของบริษัท วาเลโร เอนเนอร์จี คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าบริษัทวางแผนปิดโรงกลั่นน้ำมันที่เมืองเดลาแวร์ ซิตี้ รัฐเดลาแวร์ เนื่องจากขาดทุนอย่างหนักหลังจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ดีมานด์น้ำมันเบนซินและดีเซลหดตัวลงด้วย ทั้งนี้ คาดว่าการปิดโรงกลั่นครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อพนักงาน 550 คน