สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากที่ปิดทำการไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันเมื่อวันศุกร์เป็นไปอย่างซบเซา เพราะได้รับผลกระทบจากรายงานข่าวที่ว่า บริษัทดูไบ เวิลด์ ของรัฐบาลดูไบเลื่อนนัดชำระหนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวลดลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 76.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 72.39 - 77.94 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ตกลง 7.14 เซนต์ ปิดที่ 1.9262 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 2.79เซนต์ ปิดที่ 1.9622 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 77.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัทดูไบ เวิลด์ ของรัฐบาลดูไบได้ขอเลื่อนนัดชำระหนี้ราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ได้สร้างความวิตกกังวลต่อนักลงทุนที่เกรงว่า ปัญหาหนี้สินในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะส่งผลกระทบเลวร้ายต่อทั่วโลกในยามที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ขณะที่ข่าวดังกล่าวส่งผลให้มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และเอสแอนด์พี ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ดูไบ เวิลด์ ลงสู่สถานะ "junk" หรือ "ขยะ"
ชีค อาห์หมัด บิน ซาอิด อัล-มัคตูม ประธานคณะกรรมาธิการด้นการเงินสูงสุดแห่งดูไบ กล่าวว่า "เราเข้าใจดีว่าข่าวนี้กำลังสร้างความวิตกกังวลในตลาด โดยเฉพาะธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ของดูไบ เวิล์ด แต่รัฐบาลดูไบต้องเข้าแทรกแซงเรื่องนี้อย่างแน่นอนเพื่อลดกระแสความวิตกกังวลและเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นกับดูไบ เวิล์ด"
ทั้งนี้ ดูไบ ได้กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินราว 8 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างในระยะเวลา 4 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะพลิกโฉมดูไบให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการเงิน แต่ดูไบต้องประสบกับปัญหาภาวะตกต่ำสุดขีดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกถดถอย จนส่งผลให้ราคาบ้านในดูไบร่วงลง 50%
นอกจากนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลกับข่าวดังกล่าวก็เพราะว่า ทรัพย์สินของดูไบ เวิลด์ ครอบคลุมถึงหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ดังนั้น เมื่อรัฐบาลดูไบประกาศเลื่อนชำระหนี้ย่อมสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของดูไบ และจุดชนวนความหวั่นวิตกในตลาดทั่วโลก รวมถึงส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของดูไบในฐานะที่เป็นแหล่งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ