สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยว่าอิหร่านได้ยึดเรือยอชต์ลำหนึ่งในอ่าวเปอร์เซียและได้จับกุมตัวชาวอังกฤษ 5 คนเป็นตัวประกัน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าอาจลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากอิหร่านท้าทายองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ด้วยการประกาศขยายโครงการนิวเคลียร์ และข่าวธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประกาศให้ความช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท ดูไบ เวิล์ด ของรัฐบาลดูไบ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.80-75.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 5.6 เซนต์ ปิดที่ 2.0181 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.46 เซนต์ ปิดที่ 2.0008 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันหลังจากทางการอังกฤษรายงานว่า ทหารอิหร่านได้ยึดเรือยอชต์ลำหนึ่งและจับตัวชาวอังกฤษ 5 คนเป็นตัวประกัน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีความเป็นไปได้ว่าเรือลำดังกล่าวอาจล่วงล้ำเข้าไปในน่านน้ำอิหร่านโดยไม่ตั้งใจ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างอังกฤษและอิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก
นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากมีรายงานว่าอิหร่านกระทำการท้าทายยูเอ็นด้วยการประกาศขยายโครงการนิวเคลียร์ออกไปอีก ซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐระบุว่าเป็นการกระทำที่จะยิ่งทำให้อิหร่านแปลกแยกจากประชาคมโลกมากขึ้น
รัฐบาลอิหร่านภายใต้การนำของประธานาธิบดีมาห์มู้ด อาห์มาดิเนจ๊าด ได้สั่งการให้สำนักงานพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านเริ่มสร้างโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม 10 แห่งภายใน 2 เดือน ซึ่งโรงงานทั้งหมดจะมีขนาดเดียวกับโรงงานในเมืองนาทานซ์ และจะผลิตพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า 20,000 เมกะวัตต์
ส่วนอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้มาจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางยูเออีประกาศให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ธนาคารภายในประเทศและธนาคารต่างชาติ ด้วยการประกาศจัดกองทุนกู้ยืมพิเศษเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์และเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท ดูไบ เวิล์ด ของรัฐบาลดูไบ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจทรงตัวที่ระดับ 337.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.5%