สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการหดตัวลงรุนแรงในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางของสหรัฐส่งผลให้ดีมานด์พลังงานลดลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ( New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 76.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.90-76.63 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.31 เซนต์ ปิดที่ 2.0495 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลงแตะระดับ 1.993 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 78.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนีภาคบริการที่หดตัวลงซึ่งบ่งชี้ถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะทำให้ดีมานด์พลังงานอ่อนแอลงด้วย โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.หดตัวลงสู่ระดับ 48.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.6 จุด โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคบริการ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จะอยู่ที่ระดับ 51.5 จุด
ข้อมูลดังกล่าวฉุดสัญญาน้ำมันดิบดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 76.63 ดอลลาร์ แต่สัญญาสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดได้หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานลดลง 5,000 ราย แตะระดับ 457,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 27 พ.ย. พุ่งขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 339.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 214.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 165.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 0.6% แตะที่ 79.7% สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
นักลงทุนจับตาดูรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนพ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลง 120,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงน้อยที่สุดในรอบ 2 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานจะยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 10.2% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในเดือนต.ค.