สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังเงินดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นว่าดีมานด์น้ำมันปีหน้าจะดีดตัวเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 67 เซนต์ ปิดที่ 69.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่สัญญาน้ำมันดิบปิดต่ำกว่าระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้นไม่ถึงเพนนีแตะที่ 1.9085 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.3 เซนต์ ปิดที่ 1.822 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.บวก 2 เซนต์ ปิดที่ 71.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่าในปีหน้าดีมานด์น้ำมันทั่วโลกจะดีดตัวขึ้นมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเอเชียและตะวันออกกลางมีการขยายตัว โดยทางสำนักงานเชื่อว่าดีมานด์น้ำมันดิบจะอยู่ที่ 86.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า หรือเพิ่มขึ้น 1.7% จากปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าดีมานด์น้ำมันดิบจะอยู่ที่ราว 86.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า
แม้จะมีการคาดการณ์ว่าดีมานด์น้ำมันจะดีดตัวขึ้น แต่ราคาสัญญาพลังงานต่างๆ ก็ยังปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า เนื่องจากนักลงทุนต้องการหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ หลักฐานที่จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าดีมานด์จากทั้งผู้บริโภคและอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นจริงๆ
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันลดลงคือเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในเร็ววันนี้