สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่สิงคโปร์ ร่วงลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.5% แตะที่ 68.86 ดอลลาร์/บาร์เลในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 9 และทำสถิติร่วงลงติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการฟื้นตัวที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกอาจฉุดรั้งดีมานด์เชื้อเพลิงและพลังงาน
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 4 ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ -24 จุด จากไตรมาส 3 ที่ระดับ -33 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ -27 จุด แต่ดัชนีทังกันไตรมาส 4 ขยายตัวในอัตราที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย เนื่องจากภาคเอกชนของญี่ปุ่นยังคงกังวลว่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลให้กำไรของบริษัทหดตัวลงด้วย
ผลการสำรวจพบว่ากลุ่มผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นวางแผนที่จะลดการใช้จ่ายลงราว 13.8% ในปีงบประมาณ 2552 ทั้งนี้ก็เพราะเงินเยนที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ส่งผลให้กำไรและส่วนแบ่งตลาดของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น รวมถึง โซนี่ คอร์ป หดตัวลงด้วย
นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ที่ประเทศแองโกลา หลังจากรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเพิ่มเพดานการผลิต โดย นายอาลี อัล ไนยมี รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าโอเปคจะยังไม่เปลี่ยนแปลงโควต้าการผลิตในการประชุมวันที่ 22 ธ.ค.นี้ นอกจากนี้ นายอาลีกล่าวว่าตลาดน้ำมันโลกมีเสถียรภาพ และภาวะผันผวนในตลาดก็อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง