สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่าดีมานด์พลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลงสู่ระดับ 1.9033 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.3 เซนต์ ปิดที่ 1.8497 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ ปิดที่ 72.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากกระหน่ำขายติดต่อกันหลายวัน ภายหลังจากกลุ่มโอเปคซึ่งผลิตน้ำมันได้ร้อยละ 35 ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดีมานด์พลังงานทั่วโลกปีหน้าสูงกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนราว 70,000 บาร์เรลต่อวัน
สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ปรับเพิ่มคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันโลกปี 2552 เป็น 84.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 84.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้น้อยกว่าดีมานด์น้ำมันปีที่แล้วอยู่ 1.7% หรือ 1.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ไออีเอยังได้ปรับทบทวนคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปีหน้าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 86.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในรายงานเดือนต.ค.อยู่ 500,000 บาร์เรลต่อวัน
ไออีเอระบุว่า จีน ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอเมริกา จะเป็นแกนนำผลักดันให้ดีมานด์น้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า แต่ขณะเดียวกันก็ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐยังมีความไม่แน่นอน เมื่อพิจารณาจากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ที่ประเทศแองโกลา หลังจากรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเพิ่มเพดานการผลิต โดย นายอาลี อัล ไนยมี รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าโอเปคจะยังไม่เปลี่ยนแปลงโควต้าการผลิตในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าตลาดน้ำมันโลกมีเสถียรภาพ และภาวะผันผวนในตลาดก็อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.1%