สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่สิงคโปร์ พุ่งขึ้น 20 เซนต์ แตะที่ 72.86 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 72.66 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งไรเพราะเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงมากเกินคาด
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ธ.ค.ร่วงลง 3.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 332.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 164.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล แตะที่ 217.2 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันดิ่งลง 1.1% แตะที่ 80.0%
มาสเตอร์การ์ด สเปนดิงพัลซ์รายงานว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินค้าปลีกของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วลดลง 1.5% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์เพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสถานีโทรทัศน์เพรสทีวีของอิหร่านรายงานว่า อิหร่านประสบความสำเร็จในการทดลองยิงจรวด Sejil 2 พิสัยไกลประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยรายงานข่าวระบุว่าขีปนาวุธที่ผลิตขึ้นเองในประเทศนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระยะยาวในการปกป้องพรมแดนของประเทศ
นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษกล่าวว่า การทดลองยิงจรวด Sejil 2 ของอิหร่านทำให้อังกฤษพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านที่รุนแรงขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐกล่าวว่า การทดลองยิงจรวดของอิหร่านได้สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาคมโลก