สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่สิงคโปร์ ดีดตัวขึ้น 17 เซนต์ แตะที่ 73.53 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 74.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่าดีมานด์พลังงานทั่วโลกจะดีดตัวขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยแล้ว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ราคาน้ำมันจะดีดตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าดีมานด์พลังงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐจะส่งผลให้สต็อกน้ำมันร่วงลง ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้จะออกมาแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และคาดว่ารายได้ผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นมา ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกและภาคอสังหาริมรัพย์มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นในปี 2553
นอกจากนี้ คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.จะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากดิ่งลง 0.6% ในเดือนต.ค. เนื่องจากชาวอเมริกันซื้อรถยนต์มากขึ้น และคาดว่า ยอดขายบ้านมือสองซึ่งสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยในวันที่ 23 ธ.ค.นี้เช่นกันนั้น จะเพิ่มขึ้น 2.5% แตะที่ 6.25 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2548 นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ที่ประเทศแองโกลา หลังจากรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเพิ่มเพดานการผลิต โดย นายอาลี อัล ไนยมี รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าตลาดน้ำมันโลกมีเสถียรภาพ