สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิต ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันยังคงมีเสถียรภาพในระยะนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 74.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 72.72 - 74.91 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.34 เซนต์ ปิดที่ 1.9486 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.97 เซนต์ ปิดที่ 1.8888 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 73.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 71.97 - 74 ดอลลาร์
ที่ประชุมโอเปคมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เปลี่ยนแปลงเพดานการผลิตน้ำมัน เนื่องจากโอเปคพอใจราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนการประชุมโอเปคครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 17 มี.ค.2553
นายโฮเซ่ มาเรีย โบเทลโฮ เดอ วาสคอนเซลอส ประธานโอเปคออกแถลงการณ์หลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ในอัตราที่เร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงของการเติบโตในตลาดเอเชีย อย่างไรก็ตาม นายโฮเซ่เตือนว่าภาคการเงินทั่วโลกยังอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว นอกจากนี้ โอเปคยังกังวลว่ารัฐบาลในหลายประเทศอาจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วเกินไป
นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4%
ภายหลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการเมื่อคืนนี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลง 3.7 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 745,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันฮีทติ้งออยล์ลดลง 993,000 บาร์เรล