สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นร่วงลงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเปราะบางก็ตาม นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันอย่างหนาแน่น
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 6.32 เซนต์ ปิดที่ 2.0118 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 7.78 เซนต์ ปิดที่ 1.9666 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทอื่นๆ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ธ.ค. ร่วงลง 4.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 327.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 900,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 3.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 161.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 900,000 บาร์เรล แตะที่ 216.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันทรงตัวที่ 80.0%
นักลงทุนมองว่าสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจภายในประเทศยังบอบบางก็ตาม โดยเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.ดิ่งลง 11.3% แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ สหรัฐยังปรับลดการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 โดยประเมินว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 2.2% ต่ำกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.8%
เจอร์มานิโค พินโต รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของเอกวาดอร์และประธานคนใหม่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่เหมาะสมควรอยู่ที่ราว 80 ดอลลาร์/บาร์เรล เพื่อเป็นการรับประกันว่าประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปคจะมีรายได้แน่นอน
การแสดงความคิดเห็นของนายพินโตมีขึ้นหลังจากโอเปค ซึ่งประกอบไปด้วยแองโกล่า อัลจีเรีย ลิเบีย ไนจีเรีย เวเนซูเอล่า เอกวาดอร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน อิรัก คูเวต และกาตาร์ ตัดสินใจตรึงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา