สัญญาน้ำมันดิบตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐ และหลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดตลาดที่ 81.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ปี 2552 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.95-81.99 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ขยับขึ้น 0.36 เซนต์ ปิดที่ 2.1941 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ดีดขึ้น 2.06 เซนต์ ปิดที่ 2.1250 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 80.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จากบริษัท เจบีซี เอนเนอร์จี กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นทั้งในสหรัฐทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานจะเพิ่มขึ้นในระยะนี้ โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนภัยสภาพอากาศหนาวเย็นทางตอนใต้ในรัฐอัลบามาและจอร์เจีย รวมถึงพื้นที่ภาคเหนือของรัฐฟลอริดา พร้อมทั้งคาดว่าอุณหภูมิอาจติดลบต่ำกว่าศูนย์องศา และคาดว่าอุณหภูมิที่หนาวเหน็บจะยังกินเวลาต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์หน้าและจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
API เปิดเผยหลังจากตลาดน้ำมัน NYMEX ปิดทำการเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ม.ค.ร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 962,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจทรงตัว สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4%