สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร และหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐทำให้ดีมานด์พลังงานเพิ่มขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ปี 2552
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.16 เซนต์ ปิดที่ 2.1366 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ดีดขึ้น 0.91 เซนต์ ปิดที่ 2.2032 ดอลลาร์/แกลลอน
นักวิเคราะห์จากบริษัท Oil Outlooks & Opinions ในเมืองฮุสตันกล่าวว่า สัญญาน้ำมันดิบเดือนก.พ.ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเนื่องจากนักลงทุนยังเข้าซื้ออย่างคึกคัก หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ถือครองสกุลเงินอื่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันกลั่นที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวอเมริกันต้องการใช้พลังงานฮีทติ้งออยล์ในช่วงที่สหรัฐเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็น
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันกลั่นในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 ม.ค.ลดลง 300,000 บาร์เรล แตะที่ 159 ล้านบาร์เรล แต่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.9 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล แตะที่ 327.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 219.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 500,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.4% แตะที่ 79.9% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%
สภาพอากาศที่หนาวเย็นและพายุหิมะครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของสหรัฐในเดือนธ.ค. ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางในพื้นที่หลายแห่ง โดยสำนักงานพยากรณ์อากาศคาดว่าอุณหภูมิในนิวยอร์กซิตี้และบอสตันอาจลดลงต่ำกว่าอัตราเฉลี่ย 12 องศาในวันอาทิตย์นี้ ส่วนแถบอเมริกากลางอย่างฮุสตันจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าอัตราเฉลี่ย 25 องศาในวันศุกร์นี้ ขณะที่ซินซินเนติจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าอัตราเฉลี่ย 16 องศาในวันเสาร์นี้
ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานพยากรณ์อากาศในชิคาโก้เตือนว่า เขตพื้นที่ราบลุ่มทางตอนเหนือและเขตที่ราบสูงในแถบมิดเวสท์อาจเผชิญกับหิมะที่ตกลงมาหนาถึง 4-8 นิ้ว หลังจากที่ในรัฐเนบราสก้ามีหิมะตกลงมาหนาถึง 27 นิ้วนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นมา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายคาดการณ์ว่า อีกไม่นานสหรัฐจะเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บที่สุดนับตั้งแต่ปี 2528 ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศาตั้งแต่ชิคาโกไปจนถึงจอร์เจีย
นอกจากนี้มีรายงานว่า เขตศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตและการเกษตรหลายแห่งของจีน ถูกปกคลุมด้วยหิมะและลูกเห็บ จนหลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก ทำให้หลายเมืองในภาคตะวันออกและภาคกลางของจีนต้องปันส่วนพลังงานสำหรับภาคอุตสาหกรรม พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนจำกัดการใช้ก๊าซ หลังจากอากาศหนาวจัดทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น