สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่าสภาพอากาศหนาวเน็บในสหรัฐเริ่มทุเลาลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้ดีมานด์พลังงานลดลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 81 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 4.83 เซนต์ ปิดที่ 2.1318 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 4.49 เซนต์ ปิดที่ 2.0978 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ดิ่งลง 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จากดุ๊ค เอนเนอร์จี้ กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรเพราะกังวลว่าอุณหภูมิที่อบอุ่นขึ้นในสหรัฐอาจทำให้ดีมานด์พลังงานลดน้อยลง โดย EarthSat Energy Weather พยากรณ์ว่าอุณหภูมิในเมืองต่างๆทางภาคตะวันออกของสหรัฐ รวมถึงนิวยอร์กและบอสตัน จะอยู่เหนือระดับปกติในสัปดาห์นี้ โดยภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภูมิภาคที่ฮีทติ้งออยล์ในสัดส่วน 4 ใน 5 ของอัตราการใช้พลังงานในสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทดีทีเอ็น เมเทโอร์โลจิกซ์คาดว่าอุณหภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐจะอยู่ในระดับเฉลี่ยต่ำกว่าปกติจนถึงวันพุธ แต่หลังจากนั้นอุณหภูมิจะอยู่ในระดับใกล้ปกติหรือสูงกว่าปกติจนถึงวันศุกร์ ส่วนอุณหภูมิในช่วง 6-10 วันข้างหน้าจะอยู่ในระดับใกล้ปกติหรือสูงกว่าปกติ
สำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นดับเบิ้ลยูเอส) คาดการณ์ว่า สภาพอากาศที่กลับสู่ภาวะปกติอาจทำให้ดีมานด์น้ำมันฮีทติ้งออยล์ในสหรัฐลดลงในสัปดาห์นี้ หลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงกว่าปกติ 12% ในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4%