สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกวันแรกในรอบ 5 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงแผนยกเครื่องระบบดูแลสุขภาพ หากพรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของรัฐแมสซาชูเซตส์
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 78.05 - 78.05 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 0.06 เซนต์ ปิดที่ 2.0454 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.37 เซนต์ ปิดที่ 2.0591 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 53 เซนต์ ปิดที่ 77.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จากบริษัท เพอร์วิน แอนด์ เกิร์ซ กล่าวว่า นักลงทุนขานรับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นกว่า 100 จุดหลังจากมีการคาดการณ์ว่าผลกำไรของบริษัทประกันและบริษัทเวชภัณฑ์จะยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากภาวะชะงักงันด้านนโยบายในกรุงวอชิงตันอาจช่วยชะลอการยกเครื่องระบบการดูแลสุขภาพ
ทั้งนี้ ผู้ลงคะแนนเสียงในรัฐแมสซาชูเซตส์กำลังตัดสินใจเลือกวุฒิสมาชิกคนใหม่ แทนนายเอ็ดเวิร์ด เคนเนดี สมาชิกพรรคเดโมแครตที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ปีที่แล้ว โดยการสูญเสียที่นั่งในวุฒิสภาสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของพรรคเดโมแครตที่จะลงมติต่อแผนยกเครื่องระบบการดูแลสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกของสัญญาน้ำมันดิบถูกสกัดลง หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คงระดับคาดการณ์ดีมานด์พลังงานทั่วโลกในปี 2553 โดยคาดว่าดีมานด์พลังงานทั่วโลกจะย่ำฐานทรงตัวที่ 85.15 ล้านบาร์เรล/วัน พร้อมกับระบุว่าซัพพลายน้ำมันดิบทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูงและมากพอที่จะรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นได้
นักลงทุนติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ รวมถึงแบงค์ ออฟ อเมริกา, อีเบย์ อิงค์, เจนเนอรัล อิเล็กทริก, โกลด์แมน แซคส์, กูเกิล อิงค์, มอร์แกน สแตนลีย์ และเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.,ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนธ.ค. และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนม.ค.