สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ดีมานด์พลังงานจะอ่อนตัวลงมากขึ้นขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า ขณะที่ตลาดยังคงวิตกกังวลเรื่องความต้องการน้ำมัน ภายหลังกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่กำลังฉุดดีมานด์พลังงานหดตัวลง นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าก็มีผลกระทบต่อตลาดเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 2.02% ปิดที่ระดับ 74.54 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 74.25 - 74.66 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.พ.ลดลง 4.40 เซนต์ หรือ 2.22% ปิดที่ 1.9416 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.72 เซนต์ ปิดที่ 1.9657 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ 2.35% ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปรับตัวในช่วง 72.61 - 75.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่า การที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเสนอให้มีการออกกฎที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในการจำกัดการลงทุนแบบเสี่ยงสูงนั้น จะทำให้การซื้อขายน้ำมันดิบและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ดีมานด์ที่อ่อนตัว แนวโน้มการควบคุมนโยบายการเงินอย่างเข้มงวดมากขึ้นของจีน ยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อตลาดอย่างต่อเนื่อง