สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ดีดตัวขึ้น 32 เซนต์ แตะที่ 73.99 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยืนยันจะใช้นโยบายกระตุ้นการจ้างงาน และหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
โอบามาแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยโอบามาให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลักดันนโยบายการสร้างงานเป็นเป้าหมายหลักสำหรับปี 2553 พร้อมกับเรียกร้องให้สภาพคล่องเกรสผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นการจ้างงานฉบับใหม่
ทั้งนี้ โอบามากล่าวว่า สหรัฐมีแนวโน้มที่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านตำแหน่งในปีนี้ อันเนื่องมาจากกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้โอบามายังได้เสนอการลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจขนาดย่อมที่จ้างพนักงานใหม่หรือมีการปรับขึ้นค่าจ้าง และได้เสนอให้นำเงิน 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์จากมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินมาช่วยเหลือบรรดาธนาคารชุมชน ในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจขนาดย่อม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากเฟดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวและจะขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้ พร้อมกับประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 ม.ค.ร่วงลง 3.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 326.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล แตะที่ 157.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และ สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 229.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ 78.5%