สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 77 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันกลั่นรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง หลังจากภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าดีมานด์พลังงานจะเพิ่มขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.23-76.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 8.58 เซนต์ ปิดที่ 2.0179 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออย์เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.68 เซนต์ ปิดที่ 2.0317 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จากเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี กล่าวว่า นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักเพราะเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐในเพิ่มขึ้น หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 58.4 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 54.9 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 จุด
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ที่กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 200,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจทรงตัวที่ 78.5%
บริษัท บีพี ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของยุโรปเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 2552 อยู่ที่ 4.3 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับที่ขาดทุน 3.3 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันในปี 2552 เพิ่มขึ้น 4% แตะระดับ 3.998 ล้านบาร์เรล/วัน และมูลค่าหุ้นในปีที่แล้วทะยานขึ้น 23%
โดยราคาสัญญาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยที่ตลาดนิวยอร์กเพิ่มขึ้น 29% จากช่วงไตรมาส 4 ของปี 2551 ซึ่งช่วยหนุนให้บริษัททำกำไรได้มากขึ้น แม้ว่าผลกำไรจากน้ำมันกลั่นจะยังมีแรงกดดันอยู่บ้างก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามรายงานตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 13,000 คน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในปี 2553 แต่คาดว่าอัตราว่างงานจะยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 10% ในเดือนม.ค.