สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงปิดร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่สามเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากความวิตกเรื่องวิกฤตหนี้รัฐบาลในยุโรป นอกจากนี้ การเปิดเผยรายงานตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐทั้งในเชิงบวกและลบก็ส่งผลกดดันตลาดเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 71.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ทรุดลงแตะ 69.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ร่วงลง 1.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6.04 เซนต์ ปิดที่ 1.8747 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6.44 เซนต์ ปิดที่ 1.8864 ดอลลาร์/แกลลอน
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับปัญหายอดขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นในกรีซ โปรตุเกส และสเปน ซึ่งกดดันให้เงินยูโรร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่สี่เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยวานนี้ เงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
ขณะเดียวกัน วานนี้ยังได้มีการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่มีทั้งในแง่บวกและลบ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรลดลง 20,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สวนทางกลับที่ตลาดประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจเป็นไปอย่างชะลอตัว อย่างไรก็ดี อัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9.7% ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 10% ในเดือนธ.ค. หรือขยับขึ้นเล็กน้อย