สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากกระแสความตึงเครียดที่มีต่อโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน รวมทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดตลาดที่ 71.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 70.77-72.39 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอน เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 70.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.21-70.82 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดว่าดีมานด์ผลิตภัณฑ์น้ำมัน รวมถึงฮีทติ้งออยล์ จะสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ และความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐรายงานว่า ดีมานด์น้ำมันฮีทติ้งออยล์อาจอยู่สูงกว่าปกติ 7.6 % เนื่องจากสภาพอากาศในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือหนาวเย็นมาก
ประธานาธิบดีมาห์หมุด อาห์มาดิเนจ้าด ของอิหร่าน มีคำสั่งให้หน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านเพิ่มสต็อกแร่ยูเรเนียมโดยไม่สนใจแรงกดดันจากชาติตะวันตกที่ต้องการให้อิหร่านระงับโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่หลายประเทศกดดันให้มีการออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่ออิหร่านในวันจันทร์
นอกจากนี้มีรายงานว่า กลุ่มกบฏกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไนจีเรียก่อเหตุโจมตีท่อส่งน้ำมันแห่งหนึ่งของบริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ ในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ก.พ.จะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%