สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ที่ลดลงน้อยกว่าคาด นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากรัฐบาลจีนประกาศเป้าหมายผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวในปีนี้ ซึ่งเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่งขึ้นจะช่วยหนุนดีมานด์พลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.87 เซนต์ ปิดที่ 2.0974 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.73 เซนต์ ปิดที่ 2.2710 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.89 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลดลง 36,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะร่วงลง 50,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนก.พ.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.7% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มฟื้นตัวแล้ว
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมัน NYMEX ยังได้แรงหนุนหลังจากนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน ออกแถลงการณ์ในที่ประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนเมื่อวานนี้ว่า จีนตั้งเป้าผลักดันจีดีพีให้ขยายตัวในอัตรา 8% ในปีนี้ พร้อมกับเพิ่มการจ้างงานในเขตเมืองกว่า 9 ล้านตำแหน่ง โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณ 4.33 หมื่นล้านหยวนเข้าไปกระตุ้นการจ้างงาน และจะจัดสรรงบประมาณ 1.335 แสนล้านหยวนเพื่อสนับสนุนเกษตรกร ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.04 พันล้านหยวนเมื่อเทียบเป็นรายปี
รัฐบาลจีนให้คำมั่นสัญญาว่าจะอัดฉีดเม็ดเงินและสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเพียงพอและเหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวแข็งแกร่งในปีนี้