สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) โดยสัญญาเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 82 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่ง หลังจากตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ ปิดที่ระดับ 81.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.81 เซนต์ ปิดที่ 2.1055 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนเม.ย.ดีดขึ้น 1.82 เซนต์ ปิดที่ 2.2892 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 58 เซนต์ ปิดที่ 80.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้ปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่ง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนก.พ.ปรับตัวลดลง 36,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะร่วงลง 50,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานประจำเดือนก.พ.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.7%
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ กล่าวว่า การที่ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ปรับตัวลดลงเป็นเพียงเพราะผลกระทบจากพายุหิมะที่พัดกระหน่ำภูมิภาคอีสโคสต์ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานยังปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น และมีแนวโน้มที่ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้นในวันข้างหน้า
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลจีนเตรียมขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจาก หลังจากนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน ออกแถลงการณ์ในที่ประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนว่า จีนตั้งเป้าผลักดันจีดีพีให้ขยายตัวในอัตรา 8% ในปีนี้ พร้อมกับจะจัดสรรงบประมาณ 4.33 หมื่นล้านหยวนเข้าไปกระตุ้นการจ้างงาน และจะจัดสรรงบประมาณ 1.335 แสนล้านหยวนเพื่อสนับสนุนเกษตรกร ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.04 พันล้านหยวนเมื่อเทียบเป็นรายปี