กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มี.ค.เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล หรือ 0.4% แตะที่ 343 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วราว 3.7% และเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.9 ล้านบาร์เรล หรือ 1.3% แตะที่ 229 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 149.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 950,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นลดลง 1.2% แตะที่ 80.7%
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปีพ.ศ. 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน