สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ร่วงลง 50 เซนต์ หรือ 0.6% แตะที่ 81.59 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเที่ยงวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 82.09 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและความกังวลที่ว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้ดีมานด์พลังงานในสหรัฐหดตัวลง ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมัน NYMEX ร่วงลงในช่วงเที่ยงนี้ด้วย
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มี.ค.เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล หรือ 0.4% แตะที่ 343 ล้านบาร์เรล แต่ยังต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วราว 3.7% และเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.9 ล้านบาร์เรล หรือ 1.3% แตะที่ 229 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 149.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 950,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นลดลง 1.2% แตะที่ 80.7%
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่าดีมานด์น้ำมันในตลาดโลกปีพ.ศ.2553 จะเพิ่มขึ้น 880,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 810,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17 มี.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย