ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.90 ขานรับเฟดประเมินเศรษฐกิจเป็นบวก

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 17, 2010 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25% และประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นบวก ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานจะเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันพุธที่ 17 มี.ค. และรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐที่จะรายงานในวันเดียวกัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ( New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.70 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 81.80-81.70 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 5.67 เซนต์ ปิดที่ 2.1143 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 5.22 เซนต์ ปิดที่ 2.275 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ทะยานขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.02 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนหลังจากเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0-0.25 % และยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เฟดระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง และตลาดแรงงานเริ่มมีเสถียรภาพ ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวปานกลาง ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยให้ดีมานด์พลังงานขยายตัวขึ้นด้วย

นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ หลังจากซาอุดิอาระเบียออกมาส่งสัญญาณว่าโอเปคอาจจะคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้เท่าเดิม

นายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวแสดงความคิดเห็นที่กรุงเวียนนาว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่เหมาะสม และโอเปคยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการผลิต เนื่องจากราคาน้ำมันที่เคลื่อนไหวในกรอบ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือเป็นระดับที่เหมาะสมมาก

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อก น้ำมันกลั่นจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ