กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 มี.ค.เพิ่มขึ้น 1.00 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 344.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 1.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 148.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 227.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 800,000 บาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.1% แตะที่ระดับ 80.6% ซึ่งสอดคล้องกับที่มีการคาดการณ์ไว้
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปีพ.ศ. 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน