สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) โดยสัญญาเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ร่วงลงเกินคาด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.23 เซนต์ ปิดที่ 82.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 82.93 - 82.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.52 เซนต์ ปิดที่ 2.1395 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.47 เซนต์ ปิดที่ 2.3097 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX อย่างคึกคักหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่า ดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่ระดับต่ำทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน ตามที่เฟดได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในการประชุมครั้งล่าสุด
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 มี.ค.เพิ่มขึ้น 1.00 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 344.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 1.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 148.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 227.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 800,000 บาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.1% แตะที่ระดับ 80.6% ซึ่งสอดคล้องกับที่มีการคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ทั่วไปเดือนก.พ.ร่วงลง 0.6% หลังเพิ่มขึ้น 1.4% ใน เดือนม.ค. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นมา และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.2% เนื่องจากราคาพลังงานปรับตัวลดลง และสะท้อนให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มลดลง
ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิตไว้เท่าเดิมที่ 24.845 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการคงเพดานการผลิตติดต่อกันครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2551 เป็นต้นมา โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาราคาน้ำมันไว้ที่ระดับปัจจุบัน นอกจากนี้ การตัดสินใจคงเพดานการผลิตน้ำมันยังสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และสอดคล้องกับที่รัฐมนตรีพลังงานโอเปคออกมาส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้านี้ว่าโอเปคจะตัดสินใจคงเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้