สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 80.68 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 79.86 - 82.17 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 4.53 เซนต์ ปิดที่ 2.2556 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนเม.ย.ลดลง 4.24 เซนต์ ปิดที่ 2.0767 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนทรุดลง 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมัน NYMEX ถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากชาติสมาชิกยุโรป หลังจากนายไมเคิล เมสเตอร์ หัวหน้าโฆษกฝ่ายการเงินของนางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า กรีซควรหันไปพึ่งพากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หากจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงิน ทั้งนี้ จากความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สองเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่าลงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ ขณะที่กลุ่มประเทศสมาชิกในยุโรปยังไม่ได้ข้อสรุปในการหามาตรการช่วยเหลือกรีซแก้ปัญหาหนี้สินภายในประเทศ
นอกจากประเด็นเรื่องเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าแล้ว ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ยังถูกแรงเทขายออกมา หลังจากที่ธนาคารกลางอินเดียขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ด้านพลังงานเพิ่มมากขึ้น